"โบท็อกซ์" เป็นหัตถการที่นิยมมากและคุ้มค่าในการลงทุน เพียงแค่ฉีดโบท็อกซ์ 1 ครั้งก็ทำให้ดูสวย เปล่งปลั่งไปได้อีกยาวนาน! สรรพคุณที่โดดเด่นและเป็นที่นิยมก็คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกเสียจากลดเลือนริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า ลดขนาดมุมกรามทำให้หน้า V-Shape แต่จริงๆ แล้ว ประโยชน์ของโบท็อกซ์ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ แต่ยังมีอีกมากที่หลายๆคน อาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน วันนี้เราจะมาแชร์ประโยชน์ลับ ๆ ของโบท็อกซ์ที่คุณอาจจะยังไม่เคยรู้ ! รวบรวมไว้ให้ที่นี่
โบท็อกซ์นั้น จริง ๆ แล้ว
นอกเหนือจากหัตถการความสวยงาม ยังมีสรรพคุณอีกมากมายในด้านการรักษาสุขภาพ
1.บรรเทาอาการปวดไมเกรน
ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะข้างเดียว หรือ ไมเกรน (Migraine) แบบเรื้อรัง ที่เกิดขึ้นมากกว่า 10 วันใน 1 เดือน สามารถใช้การฉีดโบท็อกซ์เพื่อบรรเทาอาการปวดศีรษะให้ทุเลาลงได้ โบท็อกซ์จะช่วยบรรเทาให้ทรมานกับอาการไมเกรนน้อยลง เพราะโบท็อกซ์มีฤทธิ์ในการช่วยลดอาการปวดศีรษะให้อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง และหากมีอาการรุนแรงจนถึงขั้นอยากจะอาเจียน ตัวยาชนิดนี้ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการนี้ได้ด้วยเช่นกัน หากรับการฉีดโบท็อกซ์เพื่อบรรเทาไมเกรน จะสามารถลดในเรื่องของการใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการไมเกรนเป็นประจำลงได้อีกด้วย
2.ลดเหงื่อและกลิ่นบริเวณรักแร้
ปัญหาเหงื่อออกมากผิดปกติ เป็นปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนสูญเสียความมั่นใจไปค่อนข้างมาก โดยอาการนี้ถูกเรียกว่า Hyperhidrosis หรือ อาการเหงื่อออกเยอะเกินกว่าปกติ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นในบริเวณใต้วงแขน หรือ รักแร้ และส่งผลให้เกิดกลิ่นตัวที่ไม่พึงประสงค์ จนกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันในที่สุด สาเหตุอาจเกิดได้ทั้งจากกรรมพันธุ์และผลข้างเคียงจากการเป็นโรคต่าง ๆ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ, โรคอ้วน และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น การรักษาอาการเหงื่อออกมากโดยใช้โบท็อกซ์ จะเป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไประงับการทำงานของต่อมเหงื่อ ทำให้มีการผลิตเหงื่อออกมาน้อยลง จึงเป็นการลดอาการเหงื่อออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ถึงกระนั้น วิธีนี้ก็ไม่ได้เป็นการรักษาแบบถาวร หากต้องการระงับอาการเหงื่อออกมากด้วยโบท็อกซ์ จะต้องมีการฉีดซ้ำทุก ๆ 7 – 16 เดือน
3.ช่วยรักษาพฤติกรรมการนอนกัดฟัน
พฤติกรรมการนอนกัดฟัน (Bruxism) เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นขณะนอนหลับ ผู้ป่วยจะมีอาการออกแรงขบฟันบนและฟันล่างโดยที่ไม่รู้ตัวขณะที่กำลังนอนหลับ ส่วนสาเหตุของพฤติกรรมนี้ไม่สามารถระบุได้แน่ชัด เพราะมีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียดในชีวิตประจำวัน, ผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรคบางชนิด และการรับสารกระตุ้นต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกาย เช่น แอลกอฮอล์และคาเฟอีน เป็นต้น พฤติกรรมสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ เพราะจะทำให้ปวดหัว ปวดหู ปวดกราม และฟันอาจจะมีปัญหา ฉะนั้นจึงไม่ควรปล่อยผ่านพฤติกรรมนี้ไปอย่างเด็ดขาด การรักษาด้วยโบท็อกซ์จะเป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปที่กล้ามเนื้อบริเวณมุมกราม ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามที่มักจะหดตัวขณะนอนหลับ เกิดการคลายตัวเพราะถูกทำให้หยุดทำงานชั่วคราว และเมื่อกล้ามเนื้อบริเวณกรามถูกทำให้หยุดทำงาน กล้ามเนื้อบริเวณนั้นก็จะไม่หดตัวขณะนอนหลับอีก
4.บรรเทาอาการออฟฟิศซินโดรม
ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) เป็นอาการปวดเมื่อยเฉพาะส่วน เนื่องจากใช้กล้ามเนื้อมัดเดิม ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน จนทำให้กล้ามเนื้อเกิดการอักเสบและกลายเป็นอาการปวดแบบเรื้อรัง ส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นมากในกลุ่มพนักงานออฟฟิศ เพราะต้องทำงานด้วยการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานาน ไม่ค่อยได้เปลี่ยนอิริยาบทหรือลุกขึ้นเดินเพื่อยืดเส้นยืดสาย อาการปวดจะเกิดในบริเวณ คอ, บ่า, ไหล่, สะบัก และบางครั้งก็เกิดขึ้นบริเวณข้อมือร่วมด้วย การรักษาด้วยโบท็อกซ์จะเป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในบริเวณที่มีอาการปวด เพื่อทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งอยู่ เกิดการคลายตัว เป็นการบรรเทาอาการปวดเมื่อยให้ทุเลาลง ซึ่งผลลัพธ์หลังการฉีดจะอยู่ได้นานราว ๆ 4 - 6 เดือน
5.กระชับรูขุมขนและลดการเกิดสิวบนใบหน้า
นอกจากโบท็อกซ์จะสามารถช่วยในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอยตามวัยได้แล้ว
อีกหนึ่งประโยชน์ที่โบท็อกซ์สามารถช่วยรักษาผิวหน้าได้
ก็คือการฉีดโบเพื่อกระชับรูขุมขมและฉีดเพื่อลดการเกิดสิว
อย่างที่รู้กันว่าสิวบางชนิด เกิดจากต่อมไขมันที่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป
เมื่อความมันถูกผลิตออกมาเยอะก็กลายเป็นการสะสมความมันบนผิวหน้าและอุดตันบริเวณรูขุมขนจนเกิดเป็นสิวในที่สุด
การรักษาปัญหาผิวหน้าด้วยโบท็อกซ์ จะเป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปลดการทำงานของต่อมไขมัน
ทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาน้อยลง
ซึ่งจะส่งผลดีต่อผิวหน้าเพราะเป็นการลดโอกาสในการเกิดสิว
อีกทั้งการฉีดโบเพื่อทำหน้าใสไร้สิวนั้น
ยังสามารถช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้าให้ตื้นขึ้นได้อีกด้วย
6.ลดความหย่อนคล้อยบริเวณลำคอ
ริ้วรอยบริเวณลำคอ เกิดจากเมื่อยิ่งอายุมากขึ้น สุขภาพผิวก็เริ่มจะถดถอย ไม่เต่งตึงเหมือนตอนอายุยังน้อย ผิวบริเวณลำคอก็พาหย่อนคล้อยตามไปด้วย การรักษาด้วยโบท็อกซ์นั้น จะเป็นการลดเลือนริ้วรอยและยกกระชับความหย่อนคล้อยบริเวณคอ เพื่อทำให้ผิวบริเวณลำคอกระชับ เต่งตึง และดูเรียบเนียนมากขึ้น นอกจากนั้นแล้ว การฉีดโบท็อกซ์บริเวณนี้ยังสามารถช่วยลดอาการปวดคอได้อีกด้วย
7.บรรเทาอาการหนังตากระตุก
ภาวะหนังตากระตุก (Blepharospasm) เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อบริเวณรอบเปลือกตาเกิดการหดตัวและเกร็งกระตุก ส่งผลให้กระพริบตาถี่ขึ้น หรือ กล้ามเนื้อรอบดวงตากระตุกเอง บางคนถ้ามีอาการรุนแรงจะสามารถเป็นได้ถึงขั้นที่ลืมตาไม่ขึ้นเลยก็ได้ อาจทำให้การใช้ชีวิตมีปัญหามากขึ้น สาเหตุของภาวะหนังตากระตุก สามารถเกิดได้ทั้งจากการพักผ่อนน้อย จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ และความเครียด การรักษาอาการนี้ด้วยโบท็อกซ์ คือการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปเพื่อคลายกล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตาเพื่อไม่ให้เกิดการหดเกร็งและช่วยระงับการทำงานของเส้นประสาทที่คอยทำให้เกิดอาการเปลือกตากระตุก
ข้อควรระวัง
ไม่แนะนำให้ฉีดใน
สตรีมีครรภ์, ผู้ที่ยังต้องให้นมบุตรอยู่
และผู้ที่มีโรคเกี่ยวกับเส้นประสาท
โบท็อกซ์นั้นไม่ได้ช่วยเพียงแค่เรื่องลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าเพียงอย่างเดียว
แต่มีประโยชน์อีกมากมายที่โบท็อกซ์สามารถทำได้
ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการรักษาทางการแพทย์ หรือ
ตัวช่วยที่สามารถทำให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
เรียกได้ว่าสารพัดประโยชน์มาก ๆ เลยสำหรับโบท็อกซ์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
หากสนใจเข้ารับการรักษาก็อย่าลืมศึกษาข้อมูล เลือกสถานพยาบาลที่สะอาด ปลอดภัย
และใช้โบท็อกซ์ที่ได้มาตรฐาน